บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “QTC” และเครื่องหมายการค้าของลูกค้า โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ สามารถแบ่งได้เป็น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการด้านต่างๆ แก่ลูกค้า เช่น งานตรวจสอบเช็คสภาพและบำรุงรักษาตามกำหนดเวลางานซ่อมแซมและบำรุงรักษาหม้อแปลง งานบริการเติมน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า งานบริการเช่าหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งที่เป็นลูกค้าที่ซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า QTC และลูกค้าทั่วไป
บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 แห่ง และบริษัทร่วม 1 แห่ง บริษัทย่อยได้แก่ 1. บริษัท คิวทีซี ปานโก จำกัด ประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าที่ประเทศลาว จัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 ทุดจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 85% และบริษัท ปานโก กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 15% 2. บริษัท QTC Global Power จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานอื่นๆ จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 ทุนจดทะเบียน 700 ล้านบาท 3. บริษัทร่วม คือ บริษัท PPWE จำกัด ประกอบธุรกิจ พลังงาน จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
บริษัทฯ มีเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงระดับสากล (World Class) โดยมุ่งเน้น การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มประเทศ ASEAN Economic Community ซึ่งบริษัทได้ปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555-2560 เพื่อรองรับการแข่งขันที่เกิดขึ้นหลังจากการรวมตัวของ AEC ด้านการวิจัยและพัฒนา บริษัทไม่เคยหยุดนิ่ง ได้คิดค้นพัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยลดภาวะโลกร้อน และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง
ในการบริหารจัดการองค์กรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทฯ ได้ยึดถือหลักการดำเนินธุรกิจภายใต้กระบวนการ “คุณภาพแห่งความประณีต” (Quality of Details) ยึดหลักธรรมาภิบาล และหลักจรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน